วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ยืนอย่างไรให้สุข...


Cr.ภาพ Internet

สำหรับคนที่อยู่ในเมืองกรุง ย่อมรู้ดีอยู่แล้วครับว่า การที่จะไปทำงาน...
ในแต่ละวันนั้นเป็นอย่างไร ต้องตื่นก่อนไก่โห่...
กว่าจะวิ่งแข่งเพื่อไปให้ถึงจุดปล่อยตัว ณ ป้ายรถเมล์...
รอสัญณาณ เพื่อที่จะแย่งกันขึ้นรถเมล์ เป็นอย่างนี้ทุกๆ เช้าและทุกๆ เย็น...
ได้ลุ้นกันทุกวัน จะทันหรือไม่ทัน สถานการณ์เป็นอย่างนี้ครับ...

ณ จุดเริ่มต้น...
พอแต่ละคนพร้อม ยืนเข้าที่ในตำแหน่งที่คิดว่าตนเองได้เปรียบที่สุด...
ด้วยท่าทางที่ ต่างคนต่างชูคอ ตามองไปไกลๆ เขย่งเท้าซ้ายขวา...
ไม่นานนัก เป้าหมายก็เคลื่อนที่มาช้าๆ พร้อมส่งสัญณาณ...
ปี้มๆ...

เข้าที่...ระวัง...ไป!!!

คนที่อยู่ในจุดที่พร้อมที่สุดก็วิ่งไปก่อนในทันที แต่ประตูเจ้ากรรม...
มันแคบไปหน่อยทำให้ต้องเดินเบียดๆ กันเข้าไปโดยไม่ต้องออกแรง...
ไอ้คนข้างหลังมันดันช่วย...
ขึ้นก่อนมีสิทธ์ในที่นั่งก่อน เป็นรางวัลแต่ผู้ชนะ...
แป๊บเดียวเต็มรถ แต่ผมก็ยังไม่ได้นั่ง บรรยากาศตอนนี้ทำให้ผมคิดถึง...
ปลากระป๋อง…มันแน่นมาก...

รถวิ่งผ่านทุกป้าย จอดทุกป้าย ก็มีคนขึ้นทุกป้าย แต่ไม่มีคนลง...
อ่ะ...ทำยังไงที่นี้ผมก็ต้องยืนกันต่อไป ยาวไปจนสุดสายเป็นแน่แท้...
แอบคิดเองอยู่ในใจ เดี๋ยวคงมีคนที่นั่ง ลงป้ายหน้าบ้างซิ...

ผ่านไปสองป้าย คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นจริงๆ เบาะที่หน้าผมพอดี...
ไอ้เราก็เบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขาเดิมได้สะดวก...
เสียหลักนิดเดียว ไอ้คนที่ยืนข้างหน้าชิงจังหวะนั่งได้ก่อน...

เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยทีเดียว...

ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราก็ได้นั่ง...
ผ่านไปอีก สามป้าย คนที่นั่งเมื่อกี้ลุกขึ้นแล้วครับ...
ผมหัวเราะอย่างสะใจ ชี้หน้าเขาพร้อมกับพูดว่า “ในที่สุดกูก็ได้นั่ง”...
แต่ผมคิดในใจ...ดีใจได้นั่ง..
ไม่ถึง 5 วินาที ก้นยังไม่ทันได้รับรู้ถึงความสบาย...
ก็มีหญิงท้องอ่อนๆ เดินมาทางเบาะที่ผมนั่ง...
ผมเห็นอย่างนั้นก็แสดงความเป็นชาย ด้วยการลุกให้หญิงท้องนั่ง...
โดยมีเพื่อนยืนอยู่ข้างๆ...
จนแล้วจนลอด ผมก็ต้องยืนอีกรอบ...
แต่รอบนี้เป็นการยืนที่มีความสุขมากและไม่รู้สึกเมื่อยเลย...
รู้สึกได้ถึงความปิติยินดี ที่ได้เสียสละให้หญิงท้องนั่ง...

รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ กำลังทำท่าว่าจะจอดที่ป้ายหน้า...
หญิงท้องอ่อน ก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะลงป้ายพร้อมกับพูดกับเพื่อนว่า...

“พี่คนนี้ใจดีจังเลย เสียสละให้เรานั่งด้วย”...
เพื่อนก็ตอบว่า...
“เออ แต่กูสงสัยว่าพี่เขาคิดว่ามึงท้องมากกว่า...”


“คิดดี ทำดี ก็มีความสุข”

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กระเป๋ารถเมล์...

Cr.ภาพ internet

มีทีวีช่องหนึ่งได้นำเสนอข่าว เกี่ยวกับกระเป๋ารถเมล์สายหนึ่ง...
ที่พูดจากับผู้โดยสาร ด้วยน้ำเสียงที่ดัง จนผู้โดยสารคนนั้นต้องทำการ...
อัดคลิปวีดิโอไว้ แล้วนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์จากนั้นก็มีการแชร์ต่อๆ กันไป...

ไม่น่าเชื่อว่า จะมีคนเข้าชมกว่าหมื่นคน....

หลังจากที่ตกเป็นข่าว เพื่อนๆ ขอกระเป๋ารถเมล์คนนี้ ก็ได้บอกให้เจ้าตัวไปดู...
พร้อมกับบอกว่า  “งานนี้ไม่รอดแน่ ๆ” สาเหตุเป็นเพราว่าภาพที่ปรากฏในคลิป...
กระเป๋าคนนี้แต่งตัวแรงมาก แถมยังทาปากสีแดงแป๊ด...
เธอเคยโดนคาดโทษ ในเรื่องการแต่งกายผิดระเบียบและหัวหน้าเรียกพบมาแล้ว...
แต่โชคดียังเป็นของเธอบ้าง เนื่องจากวันที่ปรากฏในคลิป เป็นวันอาทิตย์...
หมายความว่าเธอสามารถแต่งตัวได้ตามสบาย...

จัดเต็ม...

เธอได้เล่าที่มาของคลิปให้ฟังว่า ในวันนั้นรถติดมาก นานกว่า 3 ชั่วโมง...
จึงมีผู้โดยสารท่านหนึ่ง...
เกิดอารมณ์หงุดหงิดและได้ต่อว่าเล็กน้อย แต่ด้วยที่เธอเป็นคนหูไม่ค่อยดี...
ก็ได้พูดเสียงดัง ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการตะโกนซะมากกว่า...
ผู้โดยสารฟังแล้วเกิดเข้าใจผิดได้...

ในระหว่างที่พูดโต้ตอบกันอยู่ เขาได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย...
ตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคิดว่าหยิบขึ้นมาโทรเฉยๆ...
ทีแรกก็กังวลใจมาก กลัวว่าภาพที่ออกมาจะเป็นไปในทางลบ...
ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาจะเคยรับมือกับสถานการณ์แบบนี้มาบ้างแล้วก็ตาม...

แต่ก็ไม่เคยตกเป็นข่าว...
ด้วยความเป็นมืออาชีพในสายงานของเธอ จึงสามารถจัดการ...
กับสถานการณ์เช่นนี้ได้...
ด้วยเครื่องมือที่เธอเอง มีมาตั้งแต่เกิดนั้นคือ ความมีอารมณ์ขันของเธอ...
และเป็นคนที่อารมณ์ดีตลอดเวลา ทำให้เธอสามารถควบคุมเหตุการณ์เช่นนี้...
ได้อยู่หมัด...

กระเป๋ารถเมล์คนนี้เธอชื่อว่า “สายสมร”...

“อารมณ์ขัน เป็นอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุด
ในการขจัดความเครียด”

อ้างอิง...

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ป้ายรถเมล์ กับ "ธุรกิจขายตรง"...



พอได้ยินความว่า “ขายตรง” ถึงกับผวากันไปเลย...
เดี๋ยวนี้เขาไปหากลุ่มลูกค้าถึงป้ายรถเมล์กันเลยเหรอ...?
ไม่แน่นะครับ ที่ป้ายรถเมล์เป็นจุดที่มีคนเยอะ ใครที่ทำธุรกิจประเภทนี้...

ลองมองตลาดกลุ่มนี้ดู มีเดินไปเดินมา แบบไม่ซ้ำหน้า...
สิ่งที่พบคือ เราเห็นแม่ค้าหัวใส เปิดร้านเปิดแผงกันเลย ข้าง ๆ ป้ายนี่แหละ...
ไม่ต้องไปเดินเร่ขายของให้เหนื่อย เพราะคนที่เหนื่อยคือ คนที่เดินไปเดินมา...

เหนื่อยแล้วต้องทำไม...?
เหนื่อยแล้วก็ต้องกระหายน้ำ...
กระหายน้ำแล้วต้องทำอย่างไร...?
ก็ต้องซื้อน้ำ...
จบปิดการขาย...
win win กันทั้งคู่...

ป้ายถัดไปใช้กลยุทธ์อีกรูปแบบหนึ่ง ระหว่างที่มีคนนั่งรอที่ป้าย...
สักพักหนึ่งก็มีหญิงสาวรูปร่างอวบ เดินมาพร้อมกับขนมข้าวเกรียบปิ้ง...
จำนวนหนึ่ง...
ไม่พูดไม่จาเดินตรงเข้าไปหาคนที่นั่งรอรถอยู่ในป้ายนั้น แล้วสะกิดข้างเอว...
เพื่อเป็นการสื่อว่า ช่วยซื้อหน่อย...
คนที่นั่งรอรถอยู่ถึงกับสะดุด ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ซื้อ...

เท่าที่สังเกตเห็น ท่าทางของนักขายคนนี้ จะซึมๆ เชื่องช้า น่าจะมีปัญหากับสมอง...
แต่เขาก็ไม่ได้ งอมือ งอเท้า ขอเรากิน เขายังมีความพยายามเพื่อขายของให้ได้...
เพราะเขาใช้กลยุทธ์ “ขายตรง” เดินเข้าไปขายกันตรงๆ...
น่าสนใจวิธีการนี้

“เพียงแค่คุณรู้จักให้ ความสุขก็แย่งกันวิ่งเข้าหาคุณแล้ว”

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ป้ายรถเมล์ กับ “ศิลปิน”...



กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นเมืองที่มีป้ายรถเมล์เยอะ...
เนื่องจากรถเมล์ เป็นระบบคมนาคมเดี่ยว ที่เราสามารถนั่งฟรีได้...
(ชอบตรงนี้แหละครับแต่ต้องมีเทคนิคนะ)...

ถ้าเราสังเกตดีๆ นะครับ ตามป้ายต่างๆ จะมีแต่เหล่าบรรดาศิลปินมากมาย...
มาสร้างความบันเทิงให้กับเรา ที่สำคัญ  ฟรี...
อ่อ!!! ลืมบอกไปว่า  ถ้าใครฟังแล้วประทับใจ  ก็ให้เงินสนับสนุนเขาได้...
(เขาไม่ว่าหรอกครับ)...

การแสดงส่วนใหญ่ที่พบเห็นจะเป็น ประเภทโฟล์คซอง ประกอบไปด้วย...
=> กีต้าหนึ่งตัว...
=> หมวกหนึ่งใบ...
ระหว่างที่นั่งรอรถ ฟังๆ ไปก็เพราะดี ไม่น่าเชื่อว่าในบรรยากาศที่มีผู้คนหนาแน่น...
ที่กำลังวิ่งแข่งกันเพื่อให้ได้ขึ้นรถ แต่กับมีเพลงเพราะๆ ทำให้ใจเราเย็นลงได้...
ความวุ่นวายที่มองเห็นกลายเป็นภาพประกอบไปเลย...

เดินไปอีกนิดจะพบกับศิลปินเดียว ประเภท “คาราโอเกะ” จุดนี้ผมชอบมาก...
ถ้าไปช่วงเช้าๆ เราจะได้ฟังแบบเสียงสดๆ จากนักร้อง...
แต่นักร้องตามองไม่เห็นนะครับ ความสามารถร้องได้ทุกเพลงที่เปิด...
ยิ่งเพลงฮิตติดตามกระแสแล้วละก็...

“มันแน่นอก  ต้องยกออก ถ้าแบกเอาไว้  เดี๋ยวใจถลอก””...\

พอถึงช่วงบ่าย เราก็ยังเห็นเขาอยู่ทีจุดเดิม ยังร้องเสียงดี เสียงไม่ตกเลย...
เก่งมาก ๆ (ผมคิดในใจ)...
ก้มหน้าก้มตาร้องใหญ่เลย พอเดินเข้าไปใกล้ ถึงกับ ตลึง!!!
โอ้!!! ขั้นเทพเลยนักร้องนั่งนิ่ง สับผงกเล็กน้อย แต่เรายังได้ยินเสียงร้องอยู่นะ...
ที่ไหนได้ตอนเช้าทำการแสดงสด เพื่ออัดเทปไว้ พอช่วงบ่าย...
ทำแบบมืออาชีพ “ลิปซิ้ง” เป็นอย่างไรครับสูตรสำเร็จของ ศิลปินดัง...
ช่วงเช้าเรียกเงินจากกระเป๋าผมไปนะ แต่ช่วงบ่าย อด...

“ไม่ว่าอาชีพใด ๆ ก็สามารถแบ่งปันความสุขให้กันและกันได้”

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รถเมล์สายความสุข...ตอน โลกส่วนตัว...



ทามกลางสังคมที่วุ่นวาย เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา...
ไม่รู้จะเดินไปไหนกันหนักหนา...
บ้างก็เดินไปทางซ้าย บ้างก็ได้ไปทางขวา...
ส่วนตัวผมก็เป็นหนึ่งในผู้คนมากมายนั้น...

เขาคงคิดเหมือนผมว่า “คนเหล่านี้จะไปไหนกัน”...

เอาน่า!!! ทุกคนล้วนแล้วแต่มีคำตอบและเหตุผลของตัวเอง...
มุ่งหน้าไปทำงานเพื่อให้ได้เงินทุก ๆ สิ้นเดือน...
บางคนออกเดินทางเพื่อไปรับจ้าง เพื่อให้ได้เงินรายวัน...
ผมก็ต้องไปพบเดินทางไปพบลูกค้าเช่นกัน มีนัดกับทางโรงงานผลิตกรอบรูป...

สรุปว่าทุกคนต้องออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด
มุ่งหน้าไปทำงาน เพื่อให้ได้เงิน กับความสุขเล็กน้อย...

แต่พอเจอกับความเร่งรีบของชีวิตแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปหาความสุข...
ไปทำงานสายก็โดนเจ้านายตำหนิ โดนฝ่ายบุคคลจับตามอง เตรียมขึ้นบัญชีดำ...
ส่วนคนที่ทำงานอิสระ ก็ต้องรักษาเวลานัด อย่าได้พลาดเชียว...
เพราะนั้นหมายความว่า เราไม่เป็นมืออาชีพ...
แต่บางครั้งก็ต้องเดินทางไปเพื่อรับฟังคำปฏิเสธ...
(ไปให้เจ็บใจเล่น ๆ)...

อาส์...นี่เป็นหนึ่งวันทำงานของคนทำงาน บางส่วนเท่านั้น...
ที่แทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย จะว่าไปแล้ว แต่ก็ยังพอมีช่องว่างอยู่ครับ...
ที่จะทำให้เรามีความสุขได้ แล้วเราจะหาช่องว่างตรงนั้นเจอได้อย่างไร...
เชิญ...

หลังจากที่ผมไปพบลูกค้าที่โรงงานกรอบรูปเสร็จแล้ว ในช่วงขากลับ...
ผมก็นั่งรถเมล์ฟรีครับ ต้องประหยัดกันหน่อย เหนื่อยครับแต่ก็ต้องทำ...
พอรถจอดเทียบป้าย ในจังหวะที่ผมเดินลงจากรถ...
สายตาของผมสะดุดไปที่ชายคนหนึ่ง ที่เดินผ่านมาทางผมที่ป้ายรถเมล์...

จริง ๆ แล้วผมเห็นเขาทุกวันครับ เพราะเขาจะเดินไปมาที่ป้ายนี้เป็นประจำ...
ผมคิดว่าเขาก็น่าจะกำลังทำงาน ทำหน้าที่ของเขาอยู่นะ ในระหว่างนั้นเอง...
ก็มีผู้หญิงเดินผ่านมาเห็น ด้วยความที่เขาใจดีมีเมตตา (ผมคิดเองนะจากที่เห็น)...
ก็ได้นำขนมปังอย่างดีเลย มีไส้ด้วย ผมเห็นยังอยากกินเลย...

ชายคนนี้ก็รับครับ แต่ยังไม่พูดอะไร...
แล้วก็มองแบบพิจารณา  อยู่สักพัก...
จากนั้นก็โยนทิ้งครับ  พร้อมกับพูดว่า “เอาอะไรมาให้กูกินวะ”...

ฮา ๆ ผมเห็นเหตุการณ์โดยตลอด จนผมอดยิ้มไม่ได้...
แต่ผมต้องแอบ ๆ อมยิ้ม เดี๋ยวเขาจะหาว่าผม “บ้า”...
เพราะจริง ๆ แล้ว ชายคนนี้เป็นคน สติไม่ดี...
ที่เดินไปมาระหว่างป้ายรถเมล์เป็นประจำ...
ก็ไม่น่าแปลก  ที่จะมีคนหยิบยืนของเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้...

บางที คนที่มีโลกส่วนตัวสูง เช่นนี้ก็ทำให้เรามองเห็นความสุขได้...
“ความสุข อยู่ที่มุมมอง
แค่คิดดีคุณก็สามารถมีความสุขได้”

บทนำความสุข...


ความสุขมีอยู่รอบๆ ตัวเรา
แต่คนเราต่างหาก เลือกที่จะมองข้ามมันไป...
ความสุขมันปะปนกับเรา ต้องมองหาความสุขนั้นให้เจอ...
อยู่บนท้องถนน ริมทาง ข้างทาง หรือแม้แต่คนที่เดินไปเดินมา...
เพราะเวลาส่วนมากของคนเราจะอยู่บทท้องถนน...
มั่วแต่กังวลกันว่า...

จะไปทำงานไม่ทัน...

ไปส่งลูกสาย...
รถติดน่าเบื่อ...
 
 
เรามองแต่ความรู้สึกของตัวเอง...
และต้องการให้สิ่งรอบข้างเป็นดั่งใจเราไปเสียทั้งหมด...
เมื่อไม่ได้ดั่งใจความทุกข์ก็เข้ามาแทนที่ความสุข...
เรามาร่วมเดินทางไปบนถนนแต่ละเส้นกัน...
เพื่อตามหาความสุขของเรากับคืนมา...

“แล้วคุณจะพบว่าความสุขไม่ได้หายไปไหนเลย...”

Cr.ภาพ : http://www.photogangs.com/webboard/lofiversion/index.php/t10207.html

กบฏ...โปรแกรมเมอร์...