Cr.ภาพ Internet
สำหรับคนที่อยู่ในเมืองกรุง ย่อมรู้ดีอยู่แล้วครับว่า การที่จะไปทำงาน...
ในแต่ละวันนั้นเป็นอย่างไร ต้องตื่นก่อนไก่โห่...
กว่าจะวิ่งแข่งเพื่อไปให้ถึงจุดปล่อยตัว ณ ป้ายรถเมล์...
รอสัญณาณ เพื่อที่จะแย่งกันขึ้นรถเมล์ เป็นอย่างนี้ทุกๆ เช้าและทุกๆ เย็น...
ได้ลุ้นกันทุกวัน จะทันหรือไม่ทัน สถานการณ์เป็นอย่างนี้ครับ...
ณ จุดเริ่มต้น...
พอแต่ละคนพร้อม ยืนเข้าที่ในตำแหน่งที่คิดว่าตนเองได้เปรียบที่สุด...
ด้วยท่าทางที่ ต่างคนต่างชูคอ ตามองไปไกลๆ เขย่งเท้าซ้ายขวา...
ไม่นานนัก เป้าหมายก็เคลื่อนที่มาช้าๆ พร้อมส่งสัญณาณ...
ปี้มๆ...
เข้าที่...ระวัง...ไป!!!
คนที่อยู่ในจุดที่พร้อมที่สุดก็วิ่งไปก่อนในทันที แต่ประตูเจ้ากรรม...
มันแคบไปหน่อยทำให้ต้องเดินเบียดๆ กันเข้าไปโดยไม่ต้องออกแรง...
ไอ้คนข้างหลังมันดันช่วย...
ขึ้นก่อนมีสิทธ์ในที่นั่งก่อน เป็นรางวัลแต่ผู้ชนะ...
แป๊บเดียวเต็มรถ แต่ผมก็ยังไม่ได้นั่ง บรรยากาศตอนนี้ทำให้ผมคิดถึง...
ปลากระป๋อง…มันแน่นมาก...
รถวิ่งผ่านทุกป้าย จอดทุกป้าย ก็มีคนขึ้นทุกป้าย แต่ไม่มีคนลง...
อ่ะ...ทำยังไงที่นี้ผมก็ต้องยืนกันต่อไป ยาวไปจนสุดสายเป็นแน่แท้...
แอบคิดเองอยู่ในใจ เดี๋ยวคงมีคนที่นั่ง ลงป้ายหน้าบ้างซิ...
ผ่านไปสองป้าย คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นจริงๆ เบาะที่หน้าผมพอดี...
ไอ้เราก็เบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขาเดิมได้สะดวก...
เสียหลักนิดเดียว ไอ้คนที่ยืนข้างหน้าชิงจังหวะนั่งได้ก่อน...
เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยทีเดียว...
ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราก็ได้นั่ง...
ผ่านไปอีก สามป้าย คนที่นั่งเมื่อกี้ลุกขึ้นแล้วครับ...
ผมหัวเราะอย่างสะใจ ชี้หน้าเขาพร้อมกับพูดว่า “ในที่สุดกูก็ได้นั่ง”...
แต่ผมคิดในใจ...ดีใจได้นั่ง..
ไม่ถึง 5 วินาที ก้นยังไม่ทันได้รับรู้ถึงความสบาย...
ก็มีหญิงท้องอ่อนๆ เดินมาทางเบาะที่ผมนั่ง...
ผมเห็นอย่างนั้นก็แสดงความเป็นชาย ด้วยการลุกให้หญิงท้องนั่ง...
โดยมีเพื่อนยืนอยู่ข้างๆ...
จนแล้วจนลอด ผมก็ต้องยืนอีกรอบ...
แต่รอบนี้เป็นการยืนที่มีความสุขมากและไม่รู้สึกเมื่อยเลย...
รู้สึกได้ถึงความปิติยินดี ที่ได้เสียสละให้หญิงท้องนั่ง...
รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ กำลังทำท่าว่าจะจอดที่ป้ายหน้า...
หญิงท้องอ่อน ก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะลงป้ายพร้อมกับพูดกับเพื่อนว่า...
“พี่คนนี้ใจดีจังเลย เสียสละให้เรานั่งด้วย”...
เพื่อนก็ตอบว่า...
“เออ แต่กูสงสัยว่าพี่เขาคิดว่ามึงท้องมากกว่า...”
“คิดดี ทำดี ก็มีความสุข”